หมวดหมู่: หุ้นเด่นวันนี้
SET27
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งตัวหลังดาวโจนส์-ราคาน้ำมันยังถ่วงตลาดฯ แต่มีความหวังจากการเจรจาการค้าจีน-สหรัฐฯ
 
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัว โดยดัชนีหุ้นดาวโจนส์ยังติดลบและราคาน้ำมันก็ยังปรับตัวลงจึงยังเป็นตัวถ่วงจากการกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน แต่ตลาดฯก็ยังมีความคาดหวังการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯน่าจะออกมาในทิศทางที่ดี ทำให้ Downside มีไม่มาก
 
นอกจากนี้ วันนี้นักลงทุนคงจะเลือกลงทุนหุ้นเป็นรายตัว จากที่ MSCI ได้ประกาศการทบทวนน้ำหนักการลงทุน ทำให้เป็นบวกต่อหุ้นรายตัว พร้อมให้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันนี้ โดยคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อน แต่ต้องจับตาการส่งสัญญาณณทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะต่อไป
 
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ พร้อมให้แนวรับ 1,650-1,645 จุด ส่วนแนวต้าน 1,665-1,675 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (13 พ.ย.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,286.49 จุด ลดลง 100.69 จุด (-0.40%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,722.18 จุด ลดลง 4.04 จุด (-0.15%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,200.88 จุด เพิ่มขึ้น 0.01 จุด (+0.00%)
 
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 40.61 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 6.57 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 81.49 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 34.18 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 0.18 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 4.29 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.88 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 23.50 จุด
 
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (13 พ.ย.61) 1,659.78 จุด เพิ่มขึ้น 4.93 จุด (+0.30%)
- นักลงทุนต่างชาติต่างชาติขายสุทธิ 1,410.28 ล้านบาท เมื่อวันที่ 13 พ.ย.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (13 พ.ย.61) ปิดที่ 55.69 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 4.24 ดอลลาร์ หรือ 7.1%
 
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (13 พ.ย.61) ที่ 4.53 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.91/93 แข็งค่าจากวานนี้ ตลาดคาดกนง.วันนี้คงดอกเบี้ย แต่จับตาการส่งสัญญาณปรับดอกเบี้ย
- ครม.ไฟเขียวแพ็คเกจท่องเที่ยวกระตุ้นช่วงปลายปี จัดกิจกรรม"ไทยแลนด์แกรนด์เซลล์"เพิ่มจุดคืนแวต อำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวตาม ห้างสรรพสินค้า-สถานที่ท่องเที่ยว ผ่อนปรนวีซ่า 3 ประเภท ดับเบิลวีซ่า รีเอ็นทรีเพอร์มิท ผ่อนปรนการเดินทางข้ามพรมแดนทางบกสำหรับการท่องเที่ยว คาดรักษาจำนวนนักท่องเที่ยวตามเป้า 38 ล้านคน สร้างรายได้ 2 ล้านล้านบาท
 
- พาณิชย์เผยอาเซียนลงนามความตกลง 3 ฉบับ เร่งกัมพูชา เมียนมา ลาวออกกฎ คุ้มครองผู้ประกอบการ ผู้บริโภค หวังขยายฐานการค้าอีคอมเมิร์ซ ด้าน"ประยุทธ์" แสดงวิสัยทัศน์เวทีสุดยอดธุรกิจการลงทุนอาเซียนให้คำมั่นไทยนั่งประธานปีหน้า เชื่อมโยงภาครัฐ-เอกชน
 
- อสังหาฯ เร่งอัดงบการตลาดโหมทำแคมเปญปลายปี เร่งโอนที่อยู่อาศัย หนีมาตรการ แบงก์ชาติคุมเข้มสินเชื่อ บังคับใช้ 1 เม.ย.ปีหน้า "พฤกษาฯ" เท 32 ล้าน นำ 161 โครงการพร้อมอยู่ มากระตุ้นยอดขาย เร่งลูกค้าโอนภายใน 28 ธ.ค. มูลค่าไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้าน เสนาฯ ระดม 800 ยูนิต จัดเต็มโปรโมชั่นอยู่ฟรี ช่วยจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ย ส่วนอนันดาฯ ส่งโปรฯเสียศูนย์สู้ ยกทัพคอนโด ติดรถไฟฟ้า 10 โครงการ เจาะกลุ่มเป้าหมาย
 
- ครม.ไฟเขียวมาตรการดึงราคาปาล์มกลับขึ้นมาอยู่ที่กิโลละ 3.10 บาท เตรียมนำน้ำมันปาล์มดิบไปใช้ผลิตไฟฟ้า ขยายมาตรการช่วยเหลือในการส่งออก เพิ่มการใช้ บี 20 และเร่งส่งออกไปยังสเปน ด้าน "บิ๊กตู่" สั่ง "เกษตร" หามาตรการเร่งด่วนช่วยราคายาง ขีดเส้นเสนอ ครม. ใน 7 วัน ยันไม่เกี่ยวการเมืองหรือเลือกตั้ง แต่เป็นปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนเข้ามา ด้าน "จุฤทธิ์" เรียกร้องนายกฯ ลงมาแก้ปัญหาด้วยตนเอง
 
- นายกฯ สั่งเกษตรเร่งแก้ปัญหายางตกต่ำภายใน 7 วัน "กฤษฎา" รับลูกมอบ กยท.ส่งยางดิบป้อนโรงงานผลิตหมอน
- "ธนารักษ์" ลุยขยับขึ้นค่าเช่าที่ราชพัสดุเชิงพาณิชย์ทั้งประเทศ เป็น 4% จากเดิม 2-3% ประเดิมคู่สัญญาที่ครบกำหนดก่อน เตรียมถก BKT เดินหน้าโครงการที่หมอชิต หวังก่อสร้างได้ภายในเดือน ก.พ.2562
 
*หุ้นเด่นวันนี้
- SANKO-W1 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.ซังโกะ ไดคาซติ้ง (ประเทศไทย) หรือ SANKO) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 99,697,866 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.00 บาทต่อหุ้น
 
อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปีนับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (31 ตุลาคม 2561) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 29 เม.ย. 2562 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 30 ต.ค. 2563
 
- CENTEL (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 45 บาท รับอานิสงส์ภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นนักท่องเที่ยว ขณะที่ผลประกอบการ Q3/61 ทำได้ 442 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19%qoq และ 20%yoy สวนทางผู้ประกอบการรายอื่นที่ผลกำไรหดตัว
 
- CPALL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 90 บาท ความกังวลด้านผลประกอบการหายไป หลังจากเผยกำไรสุทธิ Q3/61 ที่ 5,182 ลบ. (+8.4% Q-Q, % +4.3Y-Y) มากกว่าคาด จากการฟื้นตัวของกำไร MAKRO และ SSSG ของ 7-11 ที่บวกต่อเนื่อง แนวโน้ม Q4/61 สดใสรับ High Season และแสตมป์ Line Friends ตอบรับดี พร้อมรุกตลาดขนส่งพัสดุ SPEED-D และตลาดการเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยซื้อหุ้นเพิ่มใน TSC เป็น 100% ด้านราคาหุ้น 3 เดือนยัง laggard SET50 ถึง 10%
-อินโฟเควสท์
 
 
 
 
 
 

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!